|
น้อยหน่า |
ชื่ออื่นๆ: |
หมักเขียบ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ลาหนัง (ปัตตานี) มะนอแน่ มะแน่ (เหนือ) เตียบ (เขมร) หน่อเกล๊ะแซ (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) มะออจ้า มะโอจ่า (เงี้ยว-เหนือ) |
ชื่อสามัญ: |
Sugar apple, Sweet sop |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Annona squamosa L. |
วงศ์: |
ANNONACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
แถบอเมริกากลาง และใต้ แต่จะพบอยู่ทั่วไปในเขตร้อน ในประเทศไทยปลูกมากทางภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-5 ม. ทรงพุ่มโปร่ง ทรงพุ่มไม่แน่นอน แล้วแต่การตัดแต่ง และใช้ประโยชน์ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแกมขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 7-13 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ห้อยลง กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว 6 กลีบ เรียง 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ หนาอวบน้ำ มีเกสรตัวผู้และรังไข่จำนวนมาก ผลเป็นผลกลุ่ม ค่อนข้างกลม |
ฤดูการออกดอก: |
มีนาคม - พฤษภาคม |
เวลาที่ติดผล: |
มิถุนายน - กันยายน |
การขยายพันธุ์: |
เพาะเมล็ด |
สายพันธุ์ไม้: |
|
น้อยหน่าลูกผสมเพชรปากช่อง Atemoya "Petch Pakchong" |
|
น้อยหน่าลูกผสม (Annona atemoya Hort.) เป็นลูกผสมระหว่าง "เซริมัวย่ากับสวีทชอพ" ผลมีลักษณะคล้ายเซริมัวย่า สามารถปลูกได้ดีในบริเวณที่ปลูกน้อยหน่าพื้นเมือง แต่บางพันธุ์ ต้องปลูกในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นกว่า และสูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ จึงจะออกดอกติดผล เนื่องจากเป็นลูกผสมการขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดจึงมีโอกาสกลายพันธุ์เป็นอย่างมาก การรักษาพันธุ์สามารถทำได้โดยการติดตาหรือต่อกิ่ง โดยใช้น้อยหน่าหรือสวีทซอฟ เป็นต้นตอ นิยมปลูกกันแพร่หลายในอเมริกา อิสราเอล และออสเตรเลีย ในประเทศไทยนำเข้ามาปลูกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เรียกกันติดปากว่า "น้อยหน่าออสเตรเลีย" ตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมา สถานีวิจัยปากช่อง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้เริ่มโครงการวิจัยเรื่อง การปรับปรุงพันธุ์ไม้ผลสกุล น้อยหน่า (Annona breeding) เพื่อที่จะสร้างสายพันธุ์น้อยหน่าลูกผสม "อะติมัวย่า" ขึ้นมาใหม่ ให้มีคุณภาพผลดีกว่าพันธุ์เดิม ให้ได้ผลขนาด 250-400 กรัม มีเนื้อมากเมล็ดน้อย ผลไม่แตก ความหวานไม่น้อยกว่า 15 บริกซ์ และมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวยาวนาน ปัจจุบันสามารถคัดเลือกพันธุ์ใหม่ ที่มีลักษณะดีเด่นกว่าพันธุ์พ่อและพันธุ์แม่ ตรงตามวัตถุประสงค์ จำนวน 15 สายพันธุ์ และพันธุ์ที่มีลักษณะเด่น พร้อมแนะนำให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้าต่อไป ให้ชื่อว่า พันธุ์เพชรปากช่อง |
ลักษณะประจำพันธุ์ น้อยหน่าลูกผสมพันธุ์เพชรปากช่อง เกิดจากการผสมระหว่าง (Cherimoya X หนังครั่ง) X หนังเขียว #102 เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะใบขนาดกลางรูปหอก กว้าง 7.4 ซม. ยาว 14.9 ซม. สีเขียวเข้ม เส้นใบเด่นเห็นชัด ทรงพุ่มโปร่งปานกลาง ดอกใหญ่สั้น กว้าง 0.9 ซม. ยาว 2.8 ซม. ผลใหญ่รูปหัวใจ เฉลี่ยกว้าง 9.0 ซม. ยาว 9.7 ซม. น้ำหนักผลเฉลี่ย 373.9 กรัม/ผล ผิวผลเรียบมีร่องตาตื้นคล้ายน้อยหน่าหนัง ผลอ่อน สีเขียวเข้ม เมื่อแก่จัดสีเขียวอ่อน-ขาวนวล เปลือกบางลอกเปลือกได้ ผลไม่แตกเมื่อแก่หรือสุก เนื้อเหนียวแน่นคล้ายน้อยหน่าหนังสีเขียว ปริมาณเนื้อ 73% เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน เฉลี่ย 36 เมล็ด/ผล รสหวานหอม ความหวาน 20 บริกซ์ อายุหลังการเก็บเกี่ยวยาวนาน เฉลี่ย 4.9 วัน ดังนั้น พื้นที่ที่ใช้ประโยชน์บริเวณชายฝั่งทะเลระหว่างสองปี หลังจากนำภาพมาซ้อนทับกัน พบว่าพื้นที่ส่วนมากจะแสดงผลออกมาเป็นสีเหลือง แสดงถึงเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน สำหรับบริเวณพื้นที่ที่เป็นสีแดงและสีเขียวนั้น แสดงถึงพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินชายฝั่งทะเล |
ข้อแนะนำ สำหรับวิธีการปลูกน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่เลือกใช้กิ่งพันธุ์คุณภาพดี ที่มีความสูงประมาณ 40-50 ซม. และปลูกโดยใช้ระยะห่าง ประมาณ 2x2 ม. ระดับความลึกประมาณ 1 คืบ ในแต่ละหลุมให้เติมปุ๋ยคอกรองใส่ก้นหลุมประมาณครึ่งปี๊บก่อน จึงนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก หลังจากนั้นกลบดินให้แน่น สำหรับการให้น้ำในช่วงแรก ควรรอให้ต้นน้อยหน่าฟื้นตั้งต้นได้ดีก่อนสัก 3-4 วัน จึงค่อยให้น้ำอย่างเต็มที่ หากช่วงใดที่มีฝนตกมาก ก็งดให้น้ำไปเลย หลังจากนั้นสัก 2-3 อาทิตย์ จึงให้น้ำอย่างเต็มที่ หากท่านคิดจะทำสวนน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่อง ควรเข้าใจธรรมชาติของไม้ผลชนิดนี้สักหน่อยว่า เป็นไม้ผลที่ชอบน้ำ แต่ไม่ควรให้น้ำมากจนดินแฉะเกินไป เมื่อปลูกได้ประมาณ 2 เดือน ให้ตัดแต่งกิ่งที่มีขนาดเล็กและกิ่งกระโดงออกให้หมด รวมทั้งตัดยอดด้วย ตัดแต่งต้นให้เป็นทรงพุ่ม ระยะการใส่ปุ๋ยเป็น 3 ช่วง ทุกๆ 2-3 เดือน ระยะแรกให้เติมปุ๋ยสูตร 15-15-15 ก่อนระยะที่ 2 ควรเติมปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 พอถึงระยะที่ 3 ก็ให้เติมปุ๋ยสูตร 8-24-24 และเพื่อความสมบูรณ์ของต้นน้อยหน่า ควรเติมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยขี้ไก่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และเพื่อให้มีผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ ควรเริ่มดูแลตัดแต่งสวนเมื่อต้นน้อยหน่ามีอายุ 18-24 เดือน โดยเลือกกิ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 0.5-1 ซม. เอาไว้ และควรคัดเลือกน้อยหน่าผลงามๆ ไว้สัก 30 ลูกต่อต้น จากนั้นให้ตัดแต่งกิ่งจากกิ่งง่ามออกประมาณ 20 ซม. ส่วนกิ่งฝอยและกิ่งกระโดงตัดออกให้หมด รวมทั้งใบด้วย ให้เหลือแต่ต้นตอ น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องจะแตกใบพร้อมดอกในช่วง 30 วัน หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนก็จะเริ่มติดลูก ช่วงนี้แนะนำให้ฉีดปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยเกล็ดก็ได้ เพื่อบำรุงดอกและผล หากตรวจสอบต้นน้อยหน่าว่ามีปัญหาโรคหรือแมลง ก็ให้รีบฉีดยาป้องกันโรคเชื้อราไปพร้อมกัน การห่อผล ห่อผลในระยะที่ต้นน้อยหน่าเริ่มติดผลแล้ว 3 เดือน ซึ่งมีผลขนาดเท่ากำปั้น เพื่อป้องกันการเจาะของหนอนและแมลงวันทอง นอกจากนี้ ผลดีของการห่อผลก็คือ จะช่วยทำให้ผลของน้อยหน่ามีขนาดใหญ่ขึ้น 20-30% และทำให้ผลน้อยหน่ามีสีสวย ซึ่งจะเป็นสีออกเหลืองอมชมพู หลังจากนั้นเมื่อผลน้อยหน่ามีอายุ 150 วัน ก็ถือว่าผลแก่พอที่จะเก็บเกี่ยวได้เลย การเก็บเกี่ยวผลผลิตน้อยหน่าจะเริ่มเก็บตั้งแต่เวลา 07.00-11.00 น. เก็บผลน้อยหน่าที่ห่อผลทั้งถุง เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดกับผลน้อยหน่าให้น้อยที่สุด เก็บผลน้อยหน่าตามคำสั่งซื้อของแม่ค้าเท่านั้น เนื่องจากน้อยหน่าผลแก่ เมื่อตัดจากต้นแล้วจะสามารถเก็บเพื่อรอขายได้นานนับ 10 วัน น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องจะขายได้ราคาดี อยู่ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่มีไม้ผลคู่แข่งออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อย ทำให้แม่ค้าสามารถตั้งราคาขายน้อยหน่าได้สูงกว่าช่วงอื่นๆ ของปี น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อปลูกไปนานปีก็จะยิ่งให้ผลผลิตที่เพิ่มพูนมากขึ้น การปลูกน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องในปีแรกจะให้ผลผลิตไม่เกิน 3 ลูกต่อต้น ปีที่ 2 ก็จะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 10-15 ลูกต่อต้น ปีที่ 3 ก็ยิ่งจะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 20-30 ลูกต่อต้น จุดเด่นของน้อยหน่าพันธุ์นี้จะมีปริมาณน้ำหนักต่อผลสูงถึง 1-2 กก. ทีเดียว เรียกว่าปลูกครั้งเดียวสามารถที่จะเก็บผลผลิตได้นานนับ 10 ปี หากรู้จักที่จะดูแลให้ดีๆ ผลผลิตก็ย่อมออกมาดีนั่นเอง |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
ใบสดและเมล็ด น้อยหน่าสามารถใช้ฆ่าเหา และโรคกลากเกลื้อน โดยเอาใบน้อยหน่าสดมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วพอกหัว ภายใน 7 วัน กลากเกลื้อนและเหาก็จะหาย มีวิธีรักษาอยู่ 2 วิธีคือ - นำใบน้อยหน่า 3-4 ใบ มาบดหรือตำให้ละเอียดแล้วคลุกกับเหล้า 28 ดีกรี คลุกให้เคล้ากัน จนได้กลิ่นน้อยหน่า แล้วนำมาทาหัวให้ทั่ว เอาผ้าคลุมไว้สัก 10-30 นาที แล้วเอาผ้าออกใช้หวีสาง เหาก็ตกลงมาทันที - นำใบน้อยหน่า 7-8 ใบ มาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำทาหัวทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออก จะช่วยทำให้ไข่ฝ่อ และฆ่าเหาได้ และแก้ขับพยาธิลำไส้ แก้หิด แก้กลากเกลื้อน และแก้ฟกบวม |
|
ราก เป็นยาระบาย ทำให้อาเจียน และแก้พิษงู ถอนพิษเบื่อเมา |
|
เปลือกต้น เป็นยาสมานลำไส้ สมานแผล แก้ท้องร่วง แก้พิษงู แก้รำมะนาด ยาฝาดสมาน |
|
ผล ผลดิบจะเป็นยาแก้พิษงู แก้ฝีในคอ กลาก เกลื้อน ฆ่าพยาธิ ผิวหนัง และผลแห้ง แก้งูสวัด เริม แก้ฝีในหู |
|
หมายเหตุ: |
|
น้อยหน่าจะออกดอกมากเมื่อมีการตัดแต่งกิ่งและแตกยอดใหม่เท่านั้น (ออกดอกเฉพาะกิ่งที่แตกใบใหม่เท่านั้น) |
|
แมลงศัตรูที่สำคัญ ได้แก่ เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
Tem Samitinand. Thai Plant Names. Revised Edition 2001. 810 p. (38) |
2. |
เรืองศักดิ์ กมขุนทด และฉลองชัย แบบประเสริฐ. สถานีวิจัยปากช่อง สถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท และสุดใจ วรเลข หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ นครปฐม |
|