|
แค |
ชื่ออื่นๆ: |
แคบ้านดอกแดง แคขาว แคแดง |
ชื่อสามัญ: |
Hummingbird tree, Butterfly tree, AgatiAgasta, Sesban, Vegetable humming bird |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Sesbania grandiflora (L.) Desv. |
วงศ์: |
LEGUMINOSAE – PAPILIONOIDEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
Trop. Africa, Asia, Australia, S. Pacific Is. |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงพุ่มโปร่ง มีการแตกกิ่งก้านสาขาไม่เป็นระเบียบ |
ฤดูการออกดอก: |
ในสภาพธรรมชาติติดดอกออกผลในฤดูฝน |
การขยายพันธุ์: |
การเพาะเมล็ดแก่ เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากมีเล็ดจำนวนมาก |
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
มีความอดทนต่อสภาพดินเค็มได้ในระดับหนึ่ง ต้องการน้ำในระดับปานกลาง |
|
เป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น - ลำต้น นิยมใช้ในการเพาะเห็ดหูหนูได้ดี - ดอกและใบ เป็นอาหารของคนไทยมานาน - เปลือก ลำต้น ดอก ใบ เปลือกใช้เป็นยาสมุนไพร |
|
ข้อแนะนำ: |
|
แคเป็นพันธุ์ไม้ที่คนไทยส่วนใหญ่มองข้ามไป อาจจะเป็นด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่โดดเด่น พบเห็นได้โดยทั่วไป คุณค่าอนันต์ที่มีอยู่ในต้นแคจึงยังไม่ค่อยใครเห็นคุณค่า จะมีพรรณไม้สักกี่ชนิดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่เกิด (ปลูก) ถึงตาย |
|
แคเป็นพันธุ์ไม้ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีชนิดหนึ่ง ไม่ต้องการการดูแลรักษามาก |
|
แต่แคก็มีจุดอ่อนต่อศัตรูพืชบางชนิดเหมือนกัน คือ เพลี้ยแป้ง เอาไว้ว่างๆ จะเขียนวิธีการป้องกันกำจัดให้นะครับ |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
เปลือก ต้มหรือฝนรับประทาน แก้โรคบิดมีตัวแก้มูกเลือด แก้ท้องเดิน ท้องร่วง คุมธาตุ ภายนอก ใช้ชะล้างบาดแผล วิธีการใช้ ใช้เปลือกต้นปิ้งไฟ 1 ส่วน ต้มกับน้ำหรือน้ำปูนใส 10 ส่วน รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนแกง |
|
ดอก, ใบ รับประทานแก้ไข้เปลี่ยนอากาศ วิธีการใช้ ใบสด ต้มกับน้ำรับประทานลดไข้ ใช้ยอดอ่อนจำนวนไม่จำกัด ลวกจิ้มกับน้ำพริก รับประทานแก้ปวดศีรษะข้างเดียว หรือใช้ดอกที่โตเต็มที่ล้างน้ำ ต้มกับหมู ที่ เรียกว่า หมูบะช่อ 1 ชาม รับประทานวันละ 1 มื้อ รับประทานติดต่อกัน 3 - 7 วัน |
|
การกินดอกแค มีเทคนิคง่ายๆ ดังนี้ ในกรณีที่ดอกบานแล้วควรเด็ดแกนก้านชูเกสรทิ้ง เนื่องจากมีรสขม แต่หากไม่รังเกียจรสขมก็ไม่จำเป็นต้องเด็ดออกก็ได้ แต่ที่นิยมจะเป็นดอกตูม ผมมีสูตรแกงส้มดอกแคกับกุ้งมาฝาก (สูตร สมุทรสงคราม) |
|
เครื่องปรุง |
กุ้งสด ? กก. ดอกแคตูม ? กก. น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนแกง มะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา พอสมควร |
วิธีแกง |
ละลายน้ำพริกแกงลงในน้ำประมาณ ? ลิตร ตั้งไฟพอเริ่มเดือด ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ตามชอบใจ (ให้รสจัดกว่าปกติเล็กน้อย) เมื่อได้รสที่ต้องการแล้ว เร่งไฟให้แรงขึ้นพอน้ำแกงเดือดแล้ว ให้ใส่กุ้งลงใปประมาณ 1นาที แล้วใส่ ดอกแค เคี่ยวต่อไป 1 - 2 นาที เสร็จแล้วยกลงได้ครับ
เคล็ดไม่ลับของแกงส้มกุ้งกับดอกแคก็คือ เมื่อใส่กุ้งในน้ำแกงไม่ควรคนแกง เพราะว่าจะทำให้มีกลิ่นคาวของกุ้งเพิ่มขึ้น และที่สำคัญก็คือ แกงส้มถ้าจะให้อร่อยควรแกงตอนเย็น กินตอนเช้า เมื่อแกงเสร็จควรเก็บในหม้อเคลือบ ก่อนกินควรอุ่นให้ร้อนก่อนเดือดก็พอครับ กุ้งยิ่งโดนความร้อนนาน เนื้อยิ่งเหนียว |
|
|
เอกสารอ้างอิง: |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|