ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
Central Laboratory and Greenhouse Complex
ทรัพยากรพืชพรรณฯ
 
กระจ่อม กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม กระจ่อม
 
กระจ่อม
ชื่ออื่นๆ: กระจับ กระจับเขาทู่ กระจับเขาแหลม กระจับใหญ่ เขาควาย มะแง่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trapa natans L.
วงศ์: TRAPACEAE
ลักษณะทางพฤษศาสตร์: เป็นพืชน้ำ ชนิดลอยน้ำ ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวันในการเจริญเติบโต ลำต้นและรากอยู่ใต้น้ำและผิวดินใต้น้ำ ใบอยู่ผิวน้ำ การเกาะติดของใบที่ลำต้นเป็นแบบเวียน ออกดอกที่ซอกใบชูขึ้นพ้นผิวน้ำแล้วบานเต็มที่ เมื่อผสมเกสรแล้วก้านดอกจะโค้งงอลงใต้ผิวน้ำเจริญเติบโตเป็นผลต่อไป กระจับชนิดนี้รับประทานผลสดแบบของขบเคี้ยว เป็นอาหารว่างให้แป้งที่มีรสชาติหวานมัน เปลือกผลบางแกะลอกออกได้ง่าย หรือนำไปประกอบอาหารคาวได้

ใบ
เป็นใบเดี่ยวรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีขนาดความกว้างและยาว 8 X 6 ซม. ขอบใบช่วงปลายเป็นหยักตื้น ปลายยอดหยักเป็นหนามสั้นๆ สีน้ำตาลแดง 2 อันทุกๆ ยอด ช่วงด้านล่างเรียบไม่มีสิ่งเกาะติด ผิวใบด้านบนสีเขียวเรียบเป็นมันเงา ไม่มีสิ่งเกาะติดด้านใต้สีอ่อนกว่า มีขนอ่อนสีน้ำตาลเกาะติดหนาแน่นโดยเฉพาะที่เส้นใบ ก้านใบเป็นก้านกลมสีน้ำตาลแดง ตรงกลางโป่งพองออกเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เพื่อพยุงให้ลอยน้ำได้ ความยาวก้านใบขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของต้น ใบที่เกิดก่อนก้านใบจะยืดยาวออกได้ถึง 10 ซม. ใบที่เกิดใหม่ก้านใบสั้นประมาณ 2 ซม. ผิวก้านใบมีขนสั้นอ่อนนุ่มเกาะติดหนาแน่น

ดอก
ดอกเดี่ยว สีขาว บานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม.
ก้านดอก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.80 ซม. ยาว 2 ซม. ก้านสีน้ำตาลแดง มีขนสีขาวสั้นนุ่มเกาะติดหนาแน่น
กลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีเขียวแกมน้ำตาล ทรงรี ขนาดกว้างและยาว 0.30 X 0.70 ซม. ผิวด้านนอกมีขนสีขาวนุ่มเกาะติดหนาแน่น ด้านในเรียบไม่มีสิ่งเกาะติด
กลีบดอก 4 กลีบ สีขาว ขนาด 0.50 X 1.10 ซม. เกาะติดบนฐานรองดอก แต่ละกลีบเป็นอิสระต่อกัน กลีบรูปกระบองปลายโค้งมนโคนสอบเรียว ขอบกลีบส่วนปลายเป็นหยัก และบิดพลิ้วโค้งไปด้านหลังกลีบ ผิวทั้งสองด้านไม่มีสิ่งเกาะติด
เกสรตัวผู้ 4 อัน ยาว 0.60 ซม. เกาะติดที่ฐานรองดอก และมีเนื้อเยื่อแผ่นสีเหลืองขอบเป็นริ้วเส้นขนแดะโอบโคนก้านชูเกสรและส่วนด้านหน้าเชื่อมติดโคนรังไข่ไว้ ทั้ง 4 อัน อับเรณูสีขาวเหลือง
เกสรตัวเมีย 1 อัน เกาะติดบนฐานรองดอก โดยอยู่กลางเนื้อเยื่อสีเหลือง รังไข่มี 2 ห้อง แต่ละห้องมีเม็ดไข่ 1 อัน แต่เม็ดไข่สูญเสียการเจริญเติบโตไป 1 ห้อง

ผล
เจริญมาจากไข่ 1 อัน 1 ห้องรังไข่ ขนาดประมาณ 4 X 2.30 ซม. เปลือกผลสีน้ำตาลอมชมพู ผลเป็นแบบผลถั่ว เปลือกแข็ง แห้งแล้วไม่แตก ก้านผลสีเดียวกันและมีขนแบบเดียวกัน ขนาด 0.80 X 2.30 ซม.
การปลูก: ต้นพันธุ์  โดยใช้ต้นอ่อนที่ได้จากการเพาะเมล็ด หรือกิ่งอ่อนที่เกิดจากตาข้างของต้นเก่า โดยตัดให้มีส่วนของลำต้นติดมาด้วยประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ต้นพันธุ์ควรมีลักษณะสดใสแข็งแรงไม่เหี่ยวเน่า
การปลูก  พื้นที่ปลูกควรได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน
ปลูกขนาดเล็ก  เป็นการปลูกแบบประดับและรับประทานได้ในครัวเรือน โดยใช้ภาชนะที่ขังน้ำได้และควรมีขนาดเล็กสุดไม่น้อยกว่า 30 X 30 ซม. ลึก 50 ซม. ใส่ดินค่อนข้างเหนียวให้มีความหนาประมาณ 10 ซม. ใส่น้ำให้เต็มภาชนะ นำต้นพันธุ์ลอยน้ำ สักระยะรากจะยึดเกาะกับดินเอง เมื่อพืชเจริญเติบโตดีแล้วสามารถนำปลาตู้ประดับที่มีขนาดเล็กเลี้ยงรวมด้วยก็ได้
ปลูกขนาดกลาง  เป็นการปลูกไว้บริโภคในกลุ่มครอบครัว โดยใช้ภาชนะที่ขังน้ำได้หรือพื้นดินขุดเป็นบ่อขังน้ำได้ มีขนาด 4 X 5 ม. ลึก 50 - 80 ซม. หากเป็นภาชนะให้ใส่ดินค่อนข้างเหนียวหนา 10 - 15 ซม. ใส่น้ำให้เต็ม นำต้นพันธุ์ลอยน้ำเป็นกลุ่มๆ ห่างกันประมาณ 50 ซม. จนเต็มพื้นที่ ไม่สามารถเลี้ยงปลานิล ปลาแฟนซีคาร์ป หรือปลากินพืช เพราะปลาจะกินรากและใบพืชจนไม่สามารถเจริญเติบโตได้
ปลูกขนาดใหญ่เพื่อเป็นการค้า  คือพื้นที่มากกว่า 10 X 20 ม. ความลึกของน้ำไม่ควรมากกว่า 1 ม. ควรวางแผนให้มีพื้นที่สำหรับเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่ายด้วย
การบำรุงรักษา: กระจับเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีตามธรรมชาติโดยไม่ต้องให้ปุ๋ยเพิ่มเติม เพราะช่วงฤดูร้อนหรือเดือนเมษายน และพฤษภาคม น้ำในพื้นที่ปลูกจะลดน้อยลงเหลือความสูงประมาณ 10 ซม. น้ำจะร้อนง่าย ประกอบกับพืชจะพักตัว ใบแก่จะเหี่ยวเน่ากลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ ในเดือนพฤษภาคมหากมีน้ำใหม่เติมลงมาในปริมาณมาก พืชจะเริ่มเจริญเติบโตเข้าสู่รอบการเจริญใหม่ทันที หากไม่มีน้ำต้องรอจนฝนตกมีน้ำจำนวนมาก
โรคและแมลง: โรค  ไม่พบการเกิด
แมลง  หนอนกัดกินใบ หากพบการระบาดเป็นพื้นที่มาก ใช้น้ำหมักจากพริกและยาสูบฉีดพ่น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 3 สัปดาห์
การเก็บเกี่ยวผลผลิต: หลังจากปล่อยต้นพันธุ์ลอยน้ำแล้วใช้เวลาประมาณ 30 วัน พืชจะเจริญได้เต็มที่และเริ่มออกดอก อายุของผลนับจากดอกบานถึงเก็บเกี่ยวได้ใช้เวลาประมาณ 25 - 30 วัน ดอกจะออกไปเรื่อยๆ ทำให้สามารถเก็บผลผลิตได้ห่างกันทุกๆ 10-12 วัน ในหนึ่งเดือนสามารถเก็บเกี่ยวได้ 3 ครั้ง แล้วผลผลิตจะเริ่มลดลงในครั้งที่ 4 - 6 และจะเพิ่มขึ้นเหมือนชุดแรกอีก สลับเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเข้าฤดูร้อนในช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม ต้นจะโทรมๆ ดังนั้นในทุก 12 วันจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1,200 - 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ วิธีการเก็บผลผลิตทำได้ 2 แบบคือ
1. ลงเดินในน้ำ  พลิกต้นกระจับดู เลือกเก็บผลที่แก่รับประทานได้
2. ใช้เรือพายไปเก็บ  พลิกต้นกระจับดูเหมือนกัน เลือกเก็บผลที่แก่รับประทานได้
ผนวก:
1. การเกิดต้นใหม่
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม

2. ต้นและใบ
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม

3. ดอกและส่วนประกอบดอก
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม

4. ผล
กระจ่อม กระจ่อม
กระจ่อม กระจ่อม
เอกสารอ้างอิง:
1. พรเพ็ญ สุภาโชค. กองวิเคราะห์พืช 27 04 2018 ; 11:52
2. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544. พิมพ์ครั้งที่ 2. บริษัท ประชาชน จำกัด. 2543. กทม. หน้า 333
3. ราชบัณฑิตยสถาน. 2547. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก. พิมพ์ครั้งที่ 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อรุณการพิมพ์. หน้า 11
รวบรวมโดย: ไพร มัทธวรัตน์
หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม