|  | 
| กระถินเทศ |  
| ชื่ออื่นๆ: | กระถินหอม คำใต้ ดอกคำใต้ (เหนือ) กระถิน (กลาง) เกากรึนอง (กาญจนบุรี) บุหวาละสะมะนา (ปราจีนบุรี) บุหงาอินโดนีเซีย (กรุงเทพฯ) |  
| ชื่อสามัญ: | Sponge tree, Cassie flower, Sweet acacia |  
| ชื่อวิทยาศาสตร์: | Acacia farnesiana (Linn.) Willd. |  
| วงศ์: | Mimosaceae, Leguminosae |  
| ถิ่นกำเนิด: | พรรณไม้นำเข้าจากต่างประเทศ (สันนิษฐานว่านำเข้ามาจากอเมริกา) |  
| ลักษณะทั่วไป: | ไม้พุ่มขนาดเล็กสูง 2 - 10 ม. ทรงพุ่มโปร่ง รูปทรงไม่ค่อยแน่นอน |  
| ฤดูการออกดอก: | ปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว (พ.ย. - ธ.ค.) ออกดอกมาก ประปรายตลอดปี |  
| เวลาที่ดอกหอม: | ตลอดวัน (ช่วงอากาศเย็นจะหอมมาก) |  
| การขยายพันธุ์: | 
|  | การเพาะเมล็ด สามารถทำได้แต่ต้องใช้เวลาในการเพาะนาน 2 - 3 เดือนจึงจะงอก |  |  
| ข้อดีของพันธุ์ไม้: | 
|  | ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ได้ดี |  
|  | เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลายอย่าง |  |  
| ข้อแนะนำ: | 
|  | เนื่องจากมีหนามแหลมคมมากทั่วทั้งต้น จึงสามารถปลูกเพื่อเป็นรั้วป้องกันสัตว์หรือคนได้ แต่ไม่เหมาะกับการปลูกในพื้นที่มีเด็กเล็ก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ อาจเป็นอันตรายได้ |  
|  | เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอนุรักษ์จริงๆ เท่านั้น เนื่องจากการดูแลรักษา การตัดแต่งทรงพุ่มให้สวยงามทำได้ยากมาก ต้องควบคุมทรงพุ่มตลอดเวลา |  
|  | หากต้องการให้ออกดอกครั้งละมากๆ ควรเลี้ยงดูตามธรรมชาติ และงดการให้น้ำช่วงฤดูฝน จะออกดอกเต็มต้นในช่วงประมาณเดือน พ.ย. - ธ.ค. |  
|  | การให้น้ำและปุ๋ยบ่อยๆ จะทำให้การออกดอกกระจัดกระจายไม่สวยงาม แต่สามารถให้ดอกได้เกือบตลอดปี |  
|  | จำนวนต้นที่แนะนำ 1 ต้นก็เพียงพอแล้ว (ดูแลยาก ใช้พื้นที่มากในการปลูก) |  |  
| ข้อมูลอื่นๆ: | 
|  | คนทางภาคเหนือใช้ ราก ต้มน้ำอมแก้ปวดฟัน |  
|  | ตำรายาไทยใช้ ราก กินเป็นยาอายุวัฒนะ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย |  
|  | ยางของไม้นี้เรียกว่า กัมอะเคเซีย ผสมแก้ไอ บรรเทาอาการระคายคอ และสามารถพัฒนาเป็นสารยึดเกาะในอุตสาหกรรมการผลิตยาเม็ด |  
|  | เปลือกต้น ใช้สมานแผล ห้ามเลือด แก้ท้องเสีย แก้ไอ ริดสีดวงทวาร |  
|  | ดอก สกัดกลิ่นหอมเป็นน้ำหอม ใช้เป็นยาแก้เกร็ง ฆ่าแมลง แต่งกลิ่นอาหาร |  
|  | ใบ ใช้ใบสด เป็นยาฟอกแผล |  
|  | ตำรำยา |  
|  | 
| 1. | เมื่อมีอาการปวดตามข้อ ให้ใช้รากสดประมาณ 60 กรัม ตุ๋นกับเป็ด ไก่ หรือเต้าหู้ อย่างใดอย่างหนึ่งกิน |  
| 2. | เมื่อเป็นฝีหนองหลายตัว ให้ใช้รากสดประมาณ 60 กรัม ถ้ามีหนองมาก ให้ตุ๋นกับเต้าหู้กิน ถ้ามีหนองน้อยให้ตุ๋นกับไก่ หรือเป็ดกิน |  
| 3. | เมื่อเป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน ให้ใช้เปลือกต้นประมาณ 1 ส่วนต่อน้ำ 20 ส่วน ผสมกับขิงสดอีก 1 แง่ง ต้มให้เดือด กรองเอาน้ำใช้บ้วนปากทุกเช้าเย็น เป็นประจำ |  
| 4. | เมื่อเป็นวัณโรคมีร่างกายอ่อนแอ ให้ใช้รากที่แห้งแล้วประมาณ 15 - 30 กรัม ต้มเอาน้ำมาตุ๋นกับเป็ด ไก่ หรือเต้าหู้ อย่างใดอย่างหนึ่ง กินวันละครั้ง |  |  |  
| เอกสารอ้างอิง: |  |  
| รวบรวมโดย: | นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
 คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม
 |  |