|
พลับพลึงทอง |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Crinum sp. |
วงศ์: |
AMARYLLIDACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
ยังไม่ทราบแน่ชัด |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก มีหัวใต้ดิน |
ฤดูการออกดอก: |
ช่วงฤดูฝน (พ.ค. - ก.ย.) |
เวลาที่ดอกหอม: |
ช่วงเย็น - เช้า |
การขยายพันธุ์: |
|
เพาะเมล็ด |
|
แยกหน่อหรือต้นที่แตกใหม่ (ปีที่ 2 เป็นต้นไป) |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
เป็นพันธุ์ไม้ราคาถูก |
|
ใบมีสีเหลืองสวยงาม |
|
สามารถปลูกได้ดีทั้งพื้นที่ที่มีความชื้นสูง (ชื้นแฉะ) และพื้นที่ที่มีความชื้นปานกลางได้ |
|
ข้อแนะนำ: |
|
เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่ขยายพันธุ์ง่าย หากท่านสนใจพันธุ์ไม้หอมชนิดนี้ชื้อมาปลูกเพียงต้นเดียวก็พอ |
|
การปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้ควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดตลอดวัน ใบจึงจะมีสีเหลืองสวยงาม การปลูกในพื้นที่มีแสงแดดน้อยไม่เพียงพอ จะทำให้ใบเป็นสีเขียวไม่สวยงามตรงตามพันธุ์ได้ |
|
การปลูกให้สวยงามควรปลูกเป็นกอ 3 ต้น ให้มีระยะห่างเท่าๆ กัน ภายใน 2 ปีจะเป็นกอขนาดใหญ่สวยงาม |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
หากพบอาการใบเป็นสีแดงๆ คล้ายๆ น้ำหมาก ควรมีการตัดแต่งใบที่มีลักษณะดังกล่าวออกบ้างจะทำให้สวยงาม |
|
เมื่อพบว่ามีใบแห้งๆ ควรลอกออก จะทำให้ทรงพุ่มสวยงามและมีการเจริญเติบโตดีขึ้น |
|
หมายเหตุ: |
|
เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมในการใช้ประโยชน์ทางการประดับ (ใบมีสีเหลืองสวยงาม) มากกว่าการปลูกเพื่อให้ดอกหอม ความหอมและความสวยงามของดอกเป็นเพียงผลพลอยได้ ผู้ปลูกควรพิจารณาในข้อนี้ก่อน ก่อนตัดสินใจปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้ |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
Uamporn Veesommai and Thaya Janjittikul. PLANT MATERIALS IN THAILAND IN 2001. 640 p. (267) |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|