|
จันทน์ผา |
ชื่ออื่นๆ: |
จันทน์แดง ลักกะจันทน์ |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Dracaena loureiri Gagnep. |
วงศ์: |
AGAVACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
ประเทศไทย |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มโปร่งขนาดใหญ่ รูปทรงไม่แน่นอน เจริญเติบโตข้า |
ฤดูการออกดอก: |
ปลายฝน - ต้นหนาว (ส.ค. - ก.ย.) |
เวลาที่ดอกหอม: |
เช้าๆ ก่อนแดดออก |
การขยายพันธุ์: |
 |
การเพาะเมล็ด ที่สวนไม้หอมฯ ยังไม่พบการติดของเมล็ด แต่จากการสืบค้นข้อมูล มีการขยายพันธุ์แบบนี้เป็นส่วนใหญ่ |
 |
การตัดชำกิ่ง ต้องมีความชำนาญ อาจเกิดการเน่าได้ง่าย |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
 |
ปลูกได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง มีความต้องการน้ำไม่มาก |
 |
เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีราคาตามขนาดที่เพิ่มขึ้น ท่านใดที่มีพื้นที่ว่างเปล่า ปลูกไว้เถอะครับ รับรองว่าขายต้นได้แน่นอน |
 |
เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมมากในการจัดสวนที่มีสนาม |
 |
ใบไม่ค่อยร่วง |
|
ข้อแนะนำ: |
 |
โดยธรรมชาติจันทน์ผาเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชโดยทั่วไป เช่น ตามหน้าผาสูงชัน ระบบรากดีมาก ไม่ควรปลูกใกล้ต้นไม้ขนาดเล็ก |
 |
จันทน์ผาเป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตช้า ไม่ค่อยมีการแตกกิ่งก้านสาขา ไม่จำเป็นไม่ควรตัดแต่ง |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
 |
ใช้แก้ไออันเกิดจากซาง บำรุงหัวใจ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้บาดแผล แก้พิษฝี อาการอักเสบ ปวดบวม |
|
หมายเหตุ: |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ลำต้น |
ไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไข่ เมื่อต้นโตจะแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องตามยาว |
ใบ |
ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับถี่ๆ ที่ปลายกิ่ง ใบรูปแถบยาวแคบ กว้าง 4-5 ซม. ยาว 45-60 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ก้านใบเป็นกาบหุ้มซ้อนทับกันรอบลำต้นสีขาวนวล |
ดอก |
ตรงกลางดอกมีจุดสีแดง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ตามซอกใบที่ปลายกิ่ง มีดอกจำนวนมาก กลีบดอก 6 กลีบ |
ผล |
ผลสด ทรงกลมขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นพวง ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดงคล้ำ มีเมล็ดเดียว |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
BGO Plant Database, The Botanical Garden Organization, Ministry of Environment and Natural Resources, Thailand |
2. |
Tem Samitinand. Thai Plant Names. Revised Edition 2001. 810 p. |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|