|
แก้วมุกดา |
ชื่อสามัญ: |
Perfume flower tree, Pua Keni Keni, Trai Tichlan, Lau binh, Gia |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Fagraea racemosa Javanica, Fagraea blumeana |
วงศ์: |
LOGANIACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
แถบเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลังกา พม่า ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ หมู่เกาะไต้หวันตอนใต้ มาเลเซีย |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มรอเลื้อย เมื่ออยู่กลางแจ้งจะเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก (4 ปี สูงประมาณ 2.5 ม.) |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกมากในช่วงฤดูฝน |
เวลาที่ดอกหอม: |
หอมตลอดวัน (หอมมากช่วงที่อากาศเย็น) ดอกหอมนานมากถึงแม้ดอกจะโรยและร่วงหลุดจากต้นก็ยังคงความหอมอยู่ |
การขยายพันธุ์: |
|
การเพาะเมล็ด โตช้า ประมาณ 2 – 2.5 ปี จึงจะออกดอก |
|
การตอน ต้องใช้ฮอร์โมนในระดับที่เข็มข้นมากกว่าพันธุ์ไม้ปกติ ใช้เวลาในการออกราก 1.5 – 2 เดือน ออกดอกเร็ว แต่ระบบรากสู้ต้นที่เพาะเมล็ดไม่ได้ ใช้น้ำในการเจริญเติบโตมาก |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
เป็นพันธุ์ไม้ที่ใบไม่ค่อยร่วง |
|
ทรงต้นสวยงามไม่มีความจำเป็นต้องตัดแต่ง |
|
ปลูกเป็นไม้ประดับใบได้ดี เพราะว่ามีใบสวยงามมาก |
|
ข้อแนะนำ: |
|
เป็นพันธุ์ไม้ที่ต้องการน้ำมากในการเจริญเติบโต หากขาดน้ำในช่วงการเจริญเติบโตจะแสดงอาการใบเหี่ยวให้เห็นทันที ในช่วงหน้าร้อนควรรดน้ำอย่างน้อยวันเว้นวัน |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
หากไม่รีบร้อนการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดจะได้ต้นที่แข็งแรง และมีทรงพุ่มตามธรรมชาติสวยงามกว่า |
|
การเพาะเมล็ด ควรใช้เมล็ดที่แก่จัด (ผลนิ่มแต่ยังไม่ร่วงเท่านั้น) |
|
เอกสารอ้างอิง: |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|