|
คำมอกหลวง |
ชื่ออื่นๆ: |
ไข่เน่า คำมอกช้าง ผ่าด้าม ยางมอกใหญ่ แสลงหอมไก๋ หอมไก๋ |
ชื่อสามัญ: |
Golden Gardenia |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Gardenia sootepensis Hutch. |
วงศ์: |
RUBIACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
ดอยสุเทพ ประเทศไทย |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ทรงพุ่มโปร่ง บริเวณโคนต้นไม่ค่อยแตกกิ่งก้านสาขา ในสภาพธรรมชาติจะผลัดใบ ในสภาพสวนปลูกจะไม่ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมแผ่กว้าง ลำต้นบิดงอ เปลือกสีครีมอ่อนหรือเทา ค่อนข้างเรียบหรือหลุดลอกเป็นแผ่นบางๆ |
ฤดูการออกดอก: |
มี.ค. - เม.ย. |
เวลาที่ดอกหอม: |
หอมตลอดวัน |
การขยายพันธุ์ : |
|
การเพาะเมล็ด |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
ดอกส่งกลิ่นหอมนาน (ดอกร่วงแล้วก็ยังส่งกลิ่นหอม) |
|
เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ป่าจึงมีความแข็งแรง ไม่มีโรคและแมลงรบกวน |
|
สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในพื้นที่สูง อุณหภูมิต่ำ (ถิ่นกำเนิด) ถึงพื้นที่ต่ำ อุณหภูมิสูง (สวนไม้หอมฯ) |
|
เป็นพันธุ์ไม้ป่าที่พบบนที่สูงปริมาณน้ำฝนไม่มาก จึงเหมาะกับพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่มากนัก |
|
ข้อแนะนำ: |
|
เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นที่เพาะจากเมล็ด ในช่วง 4-5 ปีแรก จึงจะเริ่มออกดอก ไม่มีความจำเป็นที่จะใส่ปุ๋ยเร่งการออกดอก |
|
เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สูงได้ถึง 15 ม. ระยะการปลูกห่างจากต้นไม้ชนิดอื่นอย่างน้อย 4-5 ม. ไม่เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่น้อย |
|
คำมอกหลวงส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ การเจริญเติบโตไม่รวดเร็ว การปลูกไม้ชนิดนี้จึงควรปลูกตั้งแต่ต้นยังไม่ใหญ่มาก รากแก้วไม่ขาดจึงจะได้รูปทรงที่ดูดีตามธรรมชาติ |
|
ในกรณีที่เป็นไม้ขุดล้อมมาปลูก ต้องดูแลอย่างดีและสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีใบขนาดใหญ่และแตกใบใหม่ช้า |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
ดอกออกใหม่ๆ จะมีสีขาวอมเหลืองอ่อนและค่อยๆ เหลืองขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งมีสีเหลืองเข็ม |
|
เมล็ด เป็นส่วนผสมของยาสระผมและมีฤทธิ์ในการฆ่าเหา |
|
Chemical constituents of fruits of Gardenia sootepensis Hutch. [Article in Chinese] Wang G, Zhao S, Chen D, Lu Y, Zheng Q.
Source: |
National Institute for the Control of Pharmaceutical and Biological Products, Beijing 100050. |
Abstract OBJECTIVE: |
To demonstrate the chemical constituents of the fruits of Gardenia sootepensis. |
METHOD: |
Column chromatographic technology was employed to separate the water soluble part, and the compounds obtained were elucidated by spectral and chemical analysis. |
RESULT: |
Ten compounds have been isolated, seven of which elucidated respectively as D-mannitol, beta-sitosterol, deacetylasperulosidic acid methyl ester, geniposidic acid, geniposide, scandoside methyl ester and dimeric molecule of quinide. |
CONCLUSION: |
All the compounds were obtained from this plant for the first time. |
|
|
หมายเหตุ: |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ลำต้น |
ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 7-15 ม. มีน้ำยางเหลือง กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม ผลัดใบช่วงสั้นๆ เวลาออกดอก |
ใบ |
เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปวงรีขอบขนานหรือแกมรูปไข่กลับ กว้าง 12-18 ซม. ยาว 22-30 ซม. ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบมน ขอบใบเรียบ มีหูใบเป็นปลอกที่บริเวณรอบกิ่ง หลุดร่วงง่ายเห็นรอยแผลชัดเจน |
ดอก |
ดอกเดี่ยวสีเหลืองสด เปลี่ยนเป็นสีซีดหรือขาวนวลเมื่อร่วง ออกที่ซอกใบ มีกลิ่นหอม ขนาดผ่านศูนย์กลาง 5.5-7 ซม. |
ผล |
ผลเป็นผลสด รูปรีหรือรูปขอบขนาน ขนาดกว้าง 1.8-2.5 ซม. ยาว 2.2-4 ซม. |
|
เอกสารอ้างอิง: |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|