|
พุดน้ำบุษย์ |
ชื่ออื่นๆ: |
ไม่มีชื่ออื่น |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Gardenia sp. |
วงศ์: |
RUBIACEAE |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 2 - 3 ม. แตกกิ่งก้านต่ำจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่น |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกตลอดปี |
เวลาที่ดอกหอม: |
ช่วงที่อากาศเย็น (เย็นๆ - มืด) หอมตอนพลบค่ำ |
การขยายพันธุ์: |
 |
ที่สวนไม้หอมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยฯ ใช้วิธีการตอนเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ และควรเลือกกิ่งที่มีขนาดพอสมควรเนื่องจากเป็นไม้ที่มีกิ่งไม่แข็ง กิ่งที่มีขนาดเล็กอาจจะหักได้ง่าย |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
 |
ราคาถูก เนื่องจากขยายพันธุ์ง่าย การเจริญเติบโตรวดเร็ว |
 |
ออกดอกดกมาก และออกดอกได้หลายครั้งในรอบปี |
 |
ดอกมีกลิ่นหอมแรงมาก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของพันธุ์ไม้หอมที่ส่งกลิ่นหอมแรง (ที่สวนไม้หอมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยฯ ในปีที่ 3 ของการปลูก เมื่อเดินผ่านต้นระยะห่าง 3 ม. ยังสามารถได้กลิ่นหอมแรงอยู่) ใช้ปรุงแต่งกลิ่นน้ำหอม |
 |
ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าพันธุ์ไม้หอมชนิดนี้ทนต่อน้ำท่วมได้ช่วงหนึ่ง (2 - 3 วัน) |
 |
เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีสีสันแปรเปลี่ยนไปได้ สามสีในดอกเดียวกัน คือช่วงแรกที่ดอกเริ่มบานจะมีสีขาวนวล และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส และเมื่อดอกใกล้ๆ โรยจะมีสีเหลืองทอง |
|
ข้อแนะนำ: |
 |
ต้องการปุ๋ยและน้ำจำนวนไม่มาก แต่ต้องการความถี่ในการใส่ |
 |
ในปีแรกของการปลูกไม่ควรตัดแต่งกิ่งก้าน ควรปล่อยให้มีการแตกกิ่งก้านสาขาตามธรรมชาติ เมื่อได้ทรงพุ่มที่ต้องการก็ประมาณกลางปีที่ 2 จึงเริ่มตัดแต่งกิ่งที่ไม่ค่อยเจริญเติบโต และกิ่งแขนงเล็กๆ ออก ให้มองดูแล้วทรงพุ่มสวยงามตามความต้องการของเรา |
 |
กิ่งก้านที่เกิดจาการตัดแต่งไม่ควรขนทิ้ง ควรสับหรือตัดและกองไว้ที่โคนต้นแล้วใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสม |
 |
พุดน้ำบุษย์เป็นพันธุ์ไม้ที่ระบบรากตื้น การพรวนดินควรต้องระมัดระวังระบบรากให้ดี |
 |
หากมีการใส่ปุ๋ยคอกครั้งละน้อยๆ หลายๆ ครั้งในรอบปี การพรวนดินก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับพันธุ์ไม้หอมชนิดนี้ |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
 |
ที่สวนไม้หอมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยฯ มีพุดน้ำบุษย์สำคัญต้นหนึ่งที่ปลูกโดย ดร. ธีระ สูตะบุตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
ปิยะ เฉลิมกลิ่น และคณะ. 2546. หอมกลิ่นดอกไม้เมืองไทย. จัดพิมพ์โดยโครงการ BRT บริษัท จิรวัฒน์ เอ็กเพรส จำกัด กรุงเทพฯ. 336 หน้า (243) |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|