|
มะลิหลวง |
ชื่อสามัญ: |
Angelwing jasmine |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Jasminum nitidum |
วงศ์: |
OLEACEAE |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มเตี้ย หากปล่อยตามธรรมชาติทรงพุ่มจะกลม |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกตลอดปี |
เวลาที่ดอกหอม : |
หอมตลอดวัน |
การขยายพันธุ์: |
|
การตอน ควรทำในช่วงฤดูฝน (พ.ค. - ส.ค.) เลือกกิ่งที่มีสีเขียวปนน้ำตาล ฮอร์โมนไม่มีความจำเป็นเนื่องจากออกรากไม่ยากนัก |
|
การปักชำ นิยมส่วนที่เป็นยอด เด็ดใบทิ้งเกือบหมด |
|
การทับที่ข้อปล้อง วิธีนี้ไม่นิยมทำเป็นการค้า เพราะว่าทำได้ครั้งละไม่มากนัก แต่ลงทุนต่ำมาก |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
ออกดอกให้ชมได้บ่อยๆ ครั้ง |
|
ดูแลง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน |
|
ตอบสนองการใช้ปุ๋ยดีมากชนิดหนึ่ง |
|
ช่วงการปลูกกว้างมากตั้งแต่ระดับน้ำทะเลถึงบนภูเขาสูง ไม่ต้องกังวลเหมือนไม้หอมบางชนิดที่ปลูกในพื้นที่ราบไม่ค่อยได้ |
|
ข้อแนะนำ: |
|
พันธุ์ไม้ในสกุลนี้หากเราปลูกต้นพันธุ์ไม่ลึก เมื่อปลูกไปได้ระยะหนึ่งจะมีรากส่วนหนึ่งที่อยู่ระดับผิวดิน เมื่อมีการพรวนดิน ใส่ปุ๋ย หรือกำจัดวัชพืช รากส่วนหนึ่งจะโดนตัด หากรากนั้นมีขนาดเหมาะสมจะเกิดต้นใหม่ๆ ได้ |
|
มะลิเกือบทุกสายพันธุ์ต้องการแสงจัด จึงควรปลูกในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน |
|
ภายหลังการออกดอก ควรมีการตัดแต่งกิ่งที่อยู่ในทรงพุ่มออกบ้าง มะลิจะออกดอกภายหลังการตัดแต่งประมาณ 1.5 - 2 เดือนภายหลังการตัดแต่ง ใส่ปุ๋ย และรดน้ำ |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
การรดน้ำมากเกินความต้องการ หรือการใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนมากเกินความจำเป็น จะทำให้การออกดอกน้อยลงแต่จะมีใบมากและสีของใบจะเขียวเข็มขึ้น (บ้าใบ) |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|