ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
Central Laboratory and Greenhouse Complex
ทรัพยากรพืชพรรณฯ
 
ไข่ดาว
 
ไข่ดาว
ชื่อสามัญ: Fried egg tree, Oncoba
ชื่อวิทยาศาสตร์: Oncoba spinosa Forsk.
วงศ์: FLACOURTIACEAE
ถิ่นกำเนิด: แอฟริกาเขตร้อน
ลักษณะทั่วไป: ไม้พุ่มรอเลื้อย ลักษณะพุ่มไม่แน่นอน
ฤดูการออกดอก: ออกดอกตลอดปี
เวลาที่ดอกหอม: หอมอ่อนๆ ตอนช่วงอากาศค่อนข้างเย็น
การขยายพันธุ์:
ที่สวนไม้หอมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยฯ ได้ทดลองขยายพันธุ์โดยวิธีการตอน มีความจำเป็นที่ต้องใช้ฮอร์โมนช่วย และ % การงอกไม่ค่อยดีนัก (ประมาณ 50% เท่านั้น) ใช้เวลาในการตอนประมาณ 45 วันจึงออกราก
การเพาะเมล็ด ยังไม่มีการเก็บข้อมูล แต่พบการติดของฝักบ้าง แต่ยังอยู่ไม่ถึงฝักแก่
ข้อดีของพันธุ์ไม้:
ออกดอกตลอดปี
ดอกจะทยอยบาน ทำให้ได้ชื่นชมความสวยงามของดอกได้หลายวัน
ใช้ปลูกเป็นรั้วที่ป้องกันคนเข้าได้ดี เพราะว่ามีหนามแหลมคม ยาวประมาณ 2 - 4 ซม.
โดยธรรมชาติเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบสภาพพื้นที่ค่อนข้างแห้ง จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำ
จากการทดลองปลูกโดยให้น้ำในปริมาณค่อนข้างมากก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้ดี แต่จำนวนดอกจะลดลง และมีการแตกกิ่งก้านสาขามากกว่าในพื้นที่ค่อนข้างแห้ง จึงสามารถตัดแต่งให้มีรูปทรงตามที่ต้องการได้ง่าย ทำให้ใช้ประโยชน์ในแง่ไม้ประดับอีกทางหนึ่ง
ข้อแนะนำ:
ไข่ดาวเป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีหนามยาวแหลมคมมากที่ลำต้น ควรระวังอันตรายโดยเฉพาะพื้นที่มีเด็กๆ หนามอาจทิ่มตาบอดได้
การแก้ไขปัญหาหนามของไข่ดาวอาจทำได้โดยใช้กรรไกรตัดแต่งหนามออกได้
โดยธรรมชาติเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย การปล่อยทรงพุ่มเป็นไปตามธรรมชาติจะทำให้การดูแลรักษายากลำบาก การแก้ไขทรงพุ่มเพื่อให้ดูแลรักษาง่ายและเกิดความสวยงาม ทำได้โดยตัดแต่งทรงพุ่มให้เป็นรูปตัววี สูงประมาณ 1.7 - 2 ม.
ภายหลังการตัดแต่งทรงพุ่มควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีในปริมาณพอสมควรแล้วแต่ ขนาดของต้น จะช่วยให้มีการแตกกิ่งก้านสาขาเพิ่มจำนวนมาก และควรตัดแต่งกิ่งที่แตกขึ้นมาใหม่บางส่วนที่มีจำนวนมากเกินความจำเป็นออกบ้าง
ข้อมูลอื่นๆ:
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เท่านั้น ก่อนการตัดสินใจปลูกควรพิจารณาในข้อนี้ด้วย
หมายเหตุ:
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ประมาณ 10 ม. แตกกิ่งจำนวนมาก ลำต้นและกิ่งมีช่องอากาศและหนามจำนวนมาก หนามยาว 5-7 ซม.
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีหรือรูปไข่ ยาว 3.5-14 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบ แผ่นใบเกลี้ยง ขอบใบจักซี่ฟัน เส้นแขนงใบข้างละ 6-10 เส้น เห็นเส้นแขนงใบย่อยชัดเจน ก้านใบยาว 0.6-1 ซม. ใบอ่อนมีสีน้ำตาลแดง
ดอก ดอกขนาดใหญ่ สีขาว ออกเดี่ยวๆ ตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 1-2 ซม. ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 9 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ รูปไข่กว้าง ยาว 1-1.5 ซม. ติดทน ขยายในผลเล็กน้อย กลีบดอกมี 8-10 กลีบ รูปไข่กลับ ยาว 2.5-3.5 ซม. กลีบวงในแคบกว่าเล็กน้อย เกสรเพศผู้จำนวนมาก มี 5 มัด สีเหลือง ทำให้ดูคล้ายไข่ดาว อับเรณูยาว 2-3 มม. รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ กลมๆ ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.6-1 ซม. ยอดเกสรเป็นแฉกๆ ประมาณ 8 แฉก ติดทน ออกดอกดก ดอกบานช่วงเดือนกันยายน – มกราคม
ผล ผลมีเนื้อมีหลายเมล็ด ทรงกลม มีสันเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลแดง เปลือกแข็ง มีสันตื้นๆ ประมาณ 8 สัน เมล็ดจำนวนมาก รูปไข่ สีน้ำตาลดำ เกลี้ยง ยาว 6-7 มม. ไข่ดาวมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา ในไทยพบปลูกเป็นไม้ประดับ แต่ไม่แพร่หลายมากนักเนื่องจากมีหนาม ปลูกง่าย โตเร็ว
เอกสารอ้างอิง:
1. ดร. วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.  พจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับ.  2542 หน้า (147)
2. BGO Plant Database, The Botanical Garden Organization, Ministry of Environment and Natural Resources, Thailand
3. Tem Samitinand.  Thai Plant Names.  Revised Edition 2001.  810 p. (383)
4. The Encyclopedia of Plants in Thailand (สารานุกรมพืชในประเทศไทย)
รวบรวมโดย: นพพล เกตุประสาท
หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม