|
เตยทะเล |
ชื่ออื่นๆ: |
การะเกด ลำเจียก (กลาง) ปาแนะ (มลายู-นราธิวาส) |
ชื่อสามัญ: |
Seashore screwpine |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Pandanus odoratissimus, Pandanus odoratissimus L.f. |
วงศ์: |
PANDANACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
ตามชายหาดทั่วคาบสมุทรในแถบเส้นศูนย์สูตรรอบโลก โดยพบขึ้นเป็นดงอยู่บนชายหาด ตั้งแต่หมู่เกาะฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย คาบสมุทรมลายู ออสเตรเลีย อินเดีย หมู่เกาะฮาวาย โพลินีเซีย และวานูอาตู ในประเทศไทยพบมากบริเวณเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล และหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง เป็นต้น |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5 - 15 ม. แตกต้นบริเวณโคนจำนวนมาก |
ฤดูการออกดอก: |
ที่สวนไม้หอมฯ ยังไม่มีการออกดอก |
เวลาที่ดอกหอม: |
ดอกบานตอนเย็น (ที่สวนไม้หอมฯ ยังไม่มีข้อมูล) |
การขยายพันธุ์: |
|
แยกต้นที่แตกใหม่ในกอ ทำได้ในปีที่ 2 |
|
เพาะเมล็ด สามารถทำได้ไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะมีเมล็ดให้เพาะ |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
ทนน้ำขังแฉะ น้ำเค็ม มีรากค้ำจุนทำให้ทนต่อลม ชอบแสงแดดจัด |
|
ปลูกได้ดีในพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ดินเค็ม หรือพื้นที่ชายน้ำตามแม่น้ำ ชายหาด ลำคลอง หนอง บึง |
|
ทนทานต่อสภาพแวดล้อม โรคและแมลงศัตรูพืช |
|
ผลกินได้ |
|
ปลูกคลุมวัชพืชได้ดีเพระมีใบหนาแน่น |
|
ข้อแนะนำ: |
|
ในช่วง 1 ปีแรกการเจริญเติบโตจะช้า ควรดูแลเรื่องวัชพืชให้ดีเพราะอาจโดนวัชพืชขึ้นคลุมจนตายได้ |
|
ขอบใบมีหนามแหลม ก่อนปลูกควรพิจารณาให้ดีก่อน |
|
ต้องการพื้นที่ในการปลูกมาก อย่างน้อยต้องประมาณ 3 x 3 ตรม. |
|
จำนวนที่แนะนำให้ปลูก 1 ต้นก็เพียงพอ (เริ่มปีที่ 2 จะเริ่มแตกต้นที่โคนกอแล้วสามารถแยกกอได้แล้ว) |
|
เตยทะเล ชอบแสงแดดจัด |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
ใบ นำไปสานทำเสื่อ |
|
เปลือก ใช้ทำเชือก |
|
ดอก มีคุณสมบัติช่วยบำรุงหัวใจ และทำเครื่องหอม |
|
ราก ส่วนทีโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือพื้นทรายใช้ขับปัสสาวะ |
|
พบขึ้นมากตามชายหาดใกล้ชายฝั่งทะเล |
|
ถ้าต้นไหนมีดอกเพศผู้ จะเรียกว่า ลำเจียก |
|
ถ้าต้นไหนมีดอกเพศเมีย จะเรียกว่า เตยทะเล |
|
เอกสารอ้างอิง: |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|