|
ชำมะนาด |
ชื่ออื่นๆ: |
ดอกข้าวใหม่ ชำมะนาดกลาง ชำมะนาดฝรั่ง อ้มส้าย (ภาคเหนือ) (ภาคกลาง) |
ชื่อสามัญ: |
Bread flower |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Vallaris glabra (L.) Kuntze Pergularia glabra L. (basionym)
Heterotypic Synonyms: Vallaris pergulana Burm.f., Fl. Indica: 51 (1768). Vallaris indica J.F.Gmel., Syst. Nat.: 391 (1791), nom. illeg. Echites dichotomus Roxb., Hort. Bengal.: 20 (1814), nom. superfl. Emericia pergularia (Burm.f.) Roem. & Schult., Syst. Veg. 4: 401 (1819). Vallaris dichotoma Wall., Numer. List: 1621 (1829), nom. superfl. Echites hircosus Roxb., Fl. Ind. ed. 1832, 2: 18 (1832). Vallaris ovalis Miq., Fl. Ned. Ind. 2: 427 (1857). |
วงศ์: |
APOCYNACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
อินโดนีเซีย |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้เลื้อยขนาดกลาง ทรงพุ่มไม่แน่นอน ใบบางและต้นมียางเหนียวสีขาว |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกตลอดปี แต่ดอกจะดกช่วงฤดูหนาว |
เวลาที่ดอกหอม: |
ตลอดทั้งกลางวันและหัวค่ำ (ช่วงที่อากาศเย็นจะหอมกว่าช่วงที่มีอากาศร้อน) |
การขยายพันธุ์: |
 |
เพาะเมล็ด ที่สวนไม้หอมยังไม่มีการติดของเมล็ด |
 |
การตอนกิ่ง ชำมะนาดเป็นพันธุ์ไม้หอมที่ออกรากค่อนข้างยาก และใช้เวลาในการตอน 2 - 3 เดือน จึงจะออกราก และเปอร์เซ็นต์การออกรากด้วยวิธีนี้ค่อนข้างต่ำ |
 |
ปักชำ เป็นวิธีที่ได้ผลดีและได้ต้นใหม่ที่สวยงาม แต่รากหรือไหลที่จะนำมาขยายพันธุ์ต้องมีขนาดพอสมควร |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
 |
ช่วงเวลาที่ดอกบานนาน เนื่องจากดอกเป็นดอกช่อและค่อยๆ ทยอยบาน จึงมีช่วงเวลาที่ดอกส่งกลิ่นหอมยาวนาน |
 |
ดอกมีกลิ่นหอมแรง |
|
ข้อแนะนำ: |
 |
ต้องการแดดจัด และต้องสร้างที่ยึดเหนี่ยว |
 |
ต้องการน้ำไม่มาก การปลูกในที่ชื้นแฉะอาจทำให้ตายได้ |
 |
ควบคุมการออกดอกได้ด้วยการควบคุมน้ำและปุ๋ยที่เหมาะสม |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
 |
เป็นไม้มียาง ควรระมัดระวังในดูแลรักษาและขยายพันธุ์ |
 |
วิธีทำให้รากลอยมาที่ระดับผิวดินจะทำให้มีการเกิดต้นใหม่ได้ไม่ยากนัก |
 |
ดอก ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ลอยน้ำเหมือนดอกมะลิ แต่ต้องระวังเรื่องการช้ำขณะนำมาลอยน้ำ เพราะว่าเมื่อเกิดการช้ำจะเกิดกลิ่นเหม็นเขียวแทน ใช้เป็นเครื่องอบในแป้งร่ำ เครื่องหอม น้ำอบ |
 |
ปลูกเป็นไม้ซุ้มประดับ |
|
หมายเหตุ: |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ลำต้น |
ไม้เลื้อย มีน้ำยางขา |
ใบ |
ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปรีกว้างแกมรูปไข่กลับ กว้าง 4-8 ซม. ยาว 7-15 ซม. ก้านใบยาว 2-3 ซม. |
ดอก |
ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อที่ซอกใบ ใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 2-6 ซม. มี 10-15 ดอก กลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก เกสรผู้ 5 อัน ติดกันกลางดอกเป็นรูปลูกศร |
ผล |
ผลเมื่อแก่แห้งแตกตามรอยตะเข็บเพียงด้านเดียว |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
ปิยะ เฉลิมกลิ่น. 2540. ไม้ดอกหอม เล่ม 1. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. พิมพ์ครั้งที่ 5. 160 หน้า (85) |
2. |
ปิยะ เฉลิมกลิ่น และคณะ. 2546. หอมกลิ่นดอกไม้เมืองไทย. จัดพิมพ์โดยโครงการ BRT บริษัท จิรวัฒน์ เอ็กเพรส จำกัด กรุงเทพฯ. 336 หน้า (82) |
3. |
วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. 2542. พจณานุกรมไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย. บริษัท รวมสาร (1977) จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 5. 981 หน้า (218) |
4 |
BGO Plant Database, The Botanical Garden Organization, Ministry of Environment and Natural Resources, Thailand |
5. |
https://th.wikipedia.org/wiki/ชำมะนาด |
6. |
Tem Samitinand. Thai Plant Names. Revised Edition 2001. 810 p. (544) |
7. |
The Encyclopedia of Plants in Thailand (สารานุกรมพืชในประเทศไทย) |
8. |
World Checklist of Selected Plant Families: Royal Botanic Garden, Kew |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|