|
จันทน์กะพ้อ |
ชื่ออื่นๆ: |
จันทน์พ้อ Chan pho (Bangkok); เขี้ยวงูเขา Khiao ngu khao (Phangnga); จันทร์กะพ้อ |
ชื่อสามัญ: |
Broken Hear Flower, Resk Puteh Keruing, Chan ka pho |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Vatica diospyroides Symington. ชื่อพ้องอื่นๆ 1. Vatica fleuryana Tardieu 2. Vatica cinerea 3. Synaptea cinerea |
วงศ์: |
DIPTEROCARPACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
ไทย พบมากทางภาคใต้ |
ลักษณะทั่วไป: |
เป็นไม้ต้นใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 6-15 ม. ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มโปร่งไม่ค่อยสวย มีใบน้อย ต้นแตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด กิ่งเปราะ มีน้ำยางใสซึมออกมาตามรอยแตก ใบเดี่ยว ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวเข้มเป็นมัน รูปรีแกม ขอบขนานหรือรูปใบหอก โคนใบเบี้ยว และจะหลุดร่วงไปตามอายุ ดอก ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง มี 5 กลีบ สีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบดอกมีขนนุ่มสีน้ำตาล ดอกเล็กแต่กลิ่นหอมแรงมาก หอมร้อนๆ คล้ายกับแก้วกาหลง ดอกทยอยบานในเวลาใกล้เคียงกัน ออกดอกประมาณเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม ออกดอกมากที่สุด ช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ |
ฤดูการออกดอกติดผล: |
เดือนพฤศจิกายน - มีนาคม กลิ่นหอมมาก (คล้ายน้ำมันจันทน์) ในตอนกลางคืน เมื่อเริ่มปลูกใช้เวลาประมาณ 5-7 ปีจึงจะออกดอก |
การขยายพันธุ์: |
การเพาะเมล็ด เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ เพาะเมล็ดขึ้นในที่ร่มๆ จะดีกว่าที่กลางแจ้ง แต่โอกาสที่จะเพาะขึ้นเป็นต้นนั้นน้อยมาก ไม่เกินร้อยละสิบ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีราคาแพงและหายาก |
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
ดอกหอมแรงในเวลากลางคืน ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน |
ข้อแนะนำ: |
เป็นพันธุ์ไม้ที่ต้องการความชื้นสูงในการเจริญเติบโต ลมไม่แรง แสงแดดไม่จัด การปลูกในพื้นใกล้ลุ่มน้ำจะเหมาะสมที่สุด |
ข้อมูลอื่นๆ: |
ต้นไม้ประจำ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
ต้นไม้ประจำ วัดจันทน์กะพ้อ จังหวัดปทุมธานี |
วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ร้อยกรอง
|
จันทน์กะพ้อผลิดอกออกนวลขาว |
จรุงกลิ่นประทินราวดอกไม้สวรรค์ |
ดังกลิ่นกายกลิ่นแก้มแกมกัน |
เมื่อจอมขวัญเคยแนบชิดยามนิทรา |
พี่เหลียวซ้ายแลขวามองหาเจ้า |
พี่เหลียวซ้ายแลขวามองหาเจ้า |
ต้องเหม่อมองจันทน์กะพ้อละออตา |
ต้องเหม่อมองจันทน์กะพ้อละออตา |
|
ลำนำดอกไม้...วิยดา เทพหัตถี |
|
|
เพลงจันทน์กะพ้อร่วง คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน |
ดอกจันทน์กะพ้อร่วงพรู |
เจ้ามิใช่ร่วงสู่แผ่นดินแห่งไหนโดยง่าย |
ลมพาเอากลีบกระจาย |
ร่อนปลิวพร่างพลิ้วพราย |
ไม่มีที่หมายใด |
ดูดังฝูงผึ้งแตกรัง |
เมื่อไร้กำลัง...หล่นก็ลงฝังทั่วไป |
ไร้ผู้จะเหลียวใส่ใจ |
ไม่มีใครที่ไหน |
เก็บเอาไปเพื่อไว้บูชา |
บางกลีบเขาเหยียบลง |
แหลกเป็นผงอย่างไร้เมตตา |
กลีบจมแผ่นดินสิ้นสูญราคา |
กลิ่นนั้นหนายังหอมเป็นค่าผูกพัน |
จันทน์กะพ้อคือเหล่าสตรี |
มีราคีเพราะชายขยี้พรหมจรรย์ |
ความสาวแหลกเหลวสิ้นกัน |
ไร้ค่าผูกพันเหมือนจันทน์กะพ้อร่วงพรู |
|
เอกสารอ้างอิง: |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท (087-166-5251) หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|