ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
Central Laboratory and Greenhouse Complex
ทรัพยากรพืชพรรณฯ
 
โมกซ้อนด่าง
 
โมกซ้อนด่าง
ชื่ออื่นๆ: ปิดจงวา โมกบ้าน หลักป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์: Wrightia religiosa Benth. "variegata"
วงศ์: APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด: ประเทศไทย
ลักษณะทั่วไป: ไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 - 3 ม. แตกกิ่งก้านสาขามากไม่ค่อยเป็นระเบียบ
ฤดูการออกดอก: ออกดอกตลอดปี (ออกดอกมากช่วงปลายฤดู - ต้นฤดูหนาว)
เวลาที่ดอกหอม: ช่วงเย็น - เช้า
การขยายพันธุ์:
การเสียบยอด โดยใช้โมกมันเป็นต้นตอ
การตอน ใช้เวลา 1.5 - 2 เดือนจึงออกราก และมีความจำเป็นที่ต้องใช้ฮอร์โมนช่วยเร่งการออกราก
ข้อดีของพันธุ์ไม้:
ควบคุมการออกดอกได้ด้วยการควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยที่เหมาะสม
มีใบสวยงาม ดอกหอม และสามารถตัดแต่งให้เป็นรูปทรงที่สวยงามตามต้องการได้ดีชนิดหนึ่ง
ข้อแนะนำ:
เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมขยายพันธุ์โดยการเสียบยอดโดยใช้โมกมันเป็นต้นตอ หากพบยอดที่แตกใหม่มีใบสีเขียวควรเด็ดทิ้งทั้งหมด เพราะหากปล่อยไว้กิ่งก้านที่ใบสีเขียวจะเจริญเติบโตได้ดีกว่ากิ่งก้านที่ใบด่างที่เราต้องการ และทำให้ส่วนที่ด่างค่อยๆ ตายได้หากปล่อยไว้นานวัน
การตัดแต่งทรงพุ่มควรทำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ทรงพุ่มแน่นสวยงาม แต่จะไม่ค่อยออกดอกให้ชม
ข้อมูลอื่นๆ:
พันธุ์ไม้ในตระกูลนี้ส่วนใหญ่จะชอบพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง
ยาง ใช้แก้โรคบิดที่มีอาการเลือดออก ใช้แก้พิษงูและแมลงกัดต่อย
ราก รักษาโรคเรื้อน
มีความเชื่อว่า "โมก" จะทำให้เกิดความสุข บริสุทธิ์ สดใส คุ้มกันภัยให้กับชาวราศีพฤษภ (15 พ.ค. - 14 มิ.ย.) ชาวพฤษภ เป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการทำงานสูง มีความจริงใจ ใจกว้าง มีชีวิตที่ไม่โลดโผน
หมายเหตุ:
โดยธรรมชาติโมกด่างมีระบบรากไม่ค่อยแข็งแรง ดังนั้นกิ่งที่ได้จากการตอนจึงมีการเจริญเติบโตได้ไม่ดีนัก
เป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบอยู่กลางแจ้ง การปลูกในที่มีแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้ต้นสูงชะลูด และไม่ค่อยออกดอก
นิยมใช้ประโยชน์ทางด้านไม้ประดับที่มีใบสีสันสวยงาม มากกว่าการปลูกเพื่อให้ดอกหอม
เอกสารอ้างอิง:
1. Uamporn Veesommai Thaya Janjittikul.  Plant Materials in Thailand in 2001.  640 p. (336)
รวบรวมโดย: นพพล เกตุประสาท
หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม