|
บุหงาส่าหรี |
ชื่ออื่นๆ: |
บุหงาแต่งงาน บุหงาบาหลี |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Citharexylum spinosum Linn. |
วงศ์: |
Verbenaceae |
ถิ่นกำเนิด: |
หมู่เกาะบาร์บาโดส |
ลักษณะทั่วไป: |
ไม้พุ่มขนาดกลาง ทรงพุ่มเป็นทรงกระบอก และมีการแตกกิ่งก้านสาขามากบริเวณโคนต้น |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกตลอดปี |
เวลาที่ดอกหอม: |
หอมตลอดวัน (หอมมากช่วงเย็นถึงเช้า) |
การขยายพันธุ์: |
|
การตอน กิ่งค่อนข้างเปราะ ต้องระวังกิ่งหักภายหลังการตอน |
|
การปักชำ นิยมปักชำกิ่งที่มียอดอ่อน |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมแรง |
|
ช่วงเวลาในการออกดอกนาน (ใน 1 ช่อดอกมีดอกย่อยจำนวนมากและค่อยๆ ทยอยบานนานหลายวัน) |
|
การออกดอกสามารถควบคุมได้ด้วยการตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม การใส่ปุ๋ย และการให้น้ำที่ดี |
|
ข้อแนะนำ: |
|
เป็นพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการน้ำไม่มากแต่ต้องการบ่อยครั้ง |
|
เมื่อปลูกไปหลายๆ ปีควรมีการตัดแต่งครั้งใหญ่ๆ (ทำสาว) สักครั้งหนึ่ง จะช่วยให้ขนาดของใบและดอกดีขึ้น |
|
การสังเกตว่าปริมาณน้ำที่ต้นบุหงาส่าหรีได้รับเพียงพอหรือไม่ สังเกตได้จากสีของใบจะมีสีค่อนข้างเหลือง แสดงว่าขาดน้ำ |
|
บุหงาส่าหรีมักมีการออกดอกบริเวณที่เป็นกิ่งอ่อน |
|
ปลูกเป็นไม้ประดับ พุ่มให้ร่มเงา ดอกสวยงามและมีกลิ่นหอม |
|
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
ดร. วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. พจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับ. 2542 หน้า (428) |
2. |
Tem Samitinand. Thai Plant Names. Revised Edition 2001. 810 p. (131) |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท และไพร มัทธวรัตน์ หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|