|
พลับพลึงใหญ่ดอกสีขาว |
ชื่ออื่นๆ: |
ลิลัว (ภาคเหนือ) พลับพลึง (ภาคกลาง) |
ชื่อสามัญ: |
Cape lily, Crinum lily |
ชื่อวิทยาศาสตร์: |
Crinum asiaticum Linn. |
วงศ์: |
AMARYLLIDACEAE |
ถิ่นกำเนิด: |
กระจายทั่วไปในทวีปเอเซีย |
ลักษณะทั่วไป: |
เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปีขึ้นเป็นกอ ทรงพุ่มเตี้ยขนาดกลาง ทรงพุ่มโปร่ง มีหัวใต้ดิน และมีที่เห็นว่าเป็นลำต้นแท้จริงเป็นกาบใบที่อัดกันแน่น เมื่อโตเต็มที่กว้างกว่า 20 ซม. และยาวประมาณ 30 ซม. |
ฤดูการออกดอก: |
ออกดอกตลอดปี แต่ออกมากช่วงฤดูฝน |
เวลาที่ดอกหอม: |
ช่วงเย็น - เช้าก่อนแดดแรง |
การขยายพันธุ์: |
|
แยกหน่อที่ขึ้นบริเวณโคนต้น |
|
เพาะเมล็ด |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้: |
|
ปลูกในที่ชื้นแฉะได้ดี |
|
ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน |
|
เป็นพืชที่ทนทาน ไม่ต้องมีการบำรุงรักษามากนัก |
|
มีลำต้นขนาดใหญ่ นิยมนำกาบใบด้านในมาใช้ในการแกะสลักเพื่อตกแต่งในงานพิธีต่างๆ |
|
เจริญเติบโตเร็ว สามารถควบคุมวัชพืชที่ขึ้นริมน้ำได้ดี |
|
มีอายุยืนยาวนับสิบปี ลำต้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งต้นใหญ่ยิ่งสวยงาม |
|
ข้อแนะนำ: |
|
พื้นที่ปลูกควรมีความชื้นสูง เช่น บริเวณริมน้ำ พื้นที่ชื้นแฉะ |
|
พลับพลึงใหญ่ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำน้อย หากน้ำไม่พอจะแสดงอาการเหี่ยว |
|
หากต้องการให้ใบสวยงาม ไม่ควรปลูกในพื้นที่ได้รับแสงแดดเต็มวัน |
|
หากต้องการให้ออกดอกบ่อยๆ ควรทำลายต้นขนาดเล็กที่ขึ้นอยู่บริเวณโคนต้นใหญ่ออก |
|
การตัดลำต้นใหญ่จะทำให้มีการแตกหน่อเล็กๆ จำนวนมาก แต่จะทำให้การออกดอกลดลง |
|
การลอกกาบใบที่แห้งออกบ้าง จะทำให้พลับพลึงใหญ่สวยงามและเจริญเติบโตรวดเร็ว |
|
ข้อมูลอื่นๆ: |
|
ใบ จะมีรสเอียน นำไปต้มกินทำให้อาเจียน หรือใช้ใบพันรักษาอาการฟกช้ำ บวม เคล็ด ขัด ยอก แพลง จะถอนพิษได้ดี จะใช้ใบพลับพลึงอย่างเดียว หรืออาจใช้ปนกับชนิดอื่นๆ แล้วนำไปตำปิดบริเวณที่ปวด ใช้รักษาอาการปวดศีรษะ อาการบวม และลดอาการไข้หัว จะมีรสขม ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ขับเสมหะ เป็นยาระบาย ทำให้คลื่นเหียนอาเจียน รักษาโรคที่เกี่ยวกับปัสสาวะ น้ำดี นอกจากนี้ในหัวยังมีสาร alkaloid narcissine |
|
เมล็ด ใช้เป็นยาบำรุง ยาระบาย ขับเลือดประจำเดือน และขับปัสสาวะ |
|
ราก เคี้ยวให้แหลกจนเป็นน้ำ แล้วกลืนเอาแต่น้ำเข้าไป จะทำให้อาเจียน ใช้รักษาพิษยางน่อง หรือใช้ตำพอกแผล |
|
หมายเหตุ: |
"พลับพลึง (ไทย); ลิลัว (พายัพ)." In Siam. Plant Names, 1948, p. 144., Crinum toxicanum Roxb., Wight, lcones tab. 2021-2., Crinum asiaticum Ostenfeld in Schmidt, Flora of Koh Chang, VIII, 1904, p. 316 "Koh Kahdat, sandy seashore.", Crinum asiaticum Burkill, I, 1935, p. 681 "Bunga tembagasuasa (copper and gold flower); in Siam, Plab pleung." |
เอกสารอ้างอิง: |
1. |
ดร. วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. พจนานุกรม สมุนไพรไทย. |
2. |
Tem Samitinand. Thai Plant Names. Revised Edition 2001. 810 p. (153) |
|
รวบรวมโดย: |
นพพล เกตุประสาท หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม |
|